ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง
โดยมากแล้ว
ศิลาจารึกนั้นให้ความรู้ในด้านภาษาศาสตร์ อักษรศาสตร์ และนิรุกติศาสตร์ แต่ถ้าพิจารณาส่วนเนื้อหาสาระ ถือเป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ ที่แสดงวัฒนธรรมของชนชาติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฏ เมื่อทรงผนวช ทรงได้พบศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ ๑ ซึ่งจารึกด้วยลายสือไทย ณ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๖ จากนั้นก็ได้มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของศิลาจารึกอีกหลายหลัก ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในสมัยสุโขทัย
ศิลาจารึกที่สลักขึ้นในสมัยสุโขทัย ที่มีการชำระและแปลแล้ว นำมาพิมพ์รวบรวมไว้ในประชุมจารึกสยาม ภาคที่ ๑ เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๗ มีจำนวน ๑๕ หลัก จากนั้นได้มีการศึกษาเพิ่มเติมและจัดพิมพ์เผยแพร่ โดยมีหอสมุดแห่งชาติเป็นหน่วยหลัก เฉพาะที่เป็นจารึกสมัยสุโขทัย ได้รวบรวมจัดพิมพ์อีกในหนังสือจารึกสมัยสุโขทัย โดยกรมศิลปากร เนื่องในโอกาสฉลอง ๗๐๐ ปีลายสือไทย เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖
จารึกสุโขทัยจัดตามลักษณะตัวอักษรได้เป็น ๕ กลุ่ม คือ
- จารึกที่ใช้อักษรไทยสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรขอมสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรไทยขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรขอมสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรขอมขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรไทยสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรไทยสุโขทัยขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรธรรมล้านนา จารึกสุโขทัยที่ค้นพบและอ่านแล้วมีไม่น้อยกว่า ๑๐๐ หลัก ที่สำคัญ มีดังนี้
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นดำรงพระอิสริยยศสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฏ เมื่อทรงผนวช ทรงได้พบศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ ๑ ซึ่งจารึกด้วยลายสือไทย ณ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๖ จากนั้นก็ได้มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องราวของศิลาจารึกอีกหลายหลัก ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ในสมัยสุโขทัย
ศิลาจารึกที่สลักขึ้นในสมัยสุโขทัย ที่มีการชำระและแปลแล้ว นำมาพิมพ์รวบรวมไว้ในประชุมจารึกสยาม ภาคที่ ๑ เมื่อพ.ศ. ๒๔๖๗ มีจำนวน ๑๕ หลัก จากนั้นได้มีการศึกษาเพิ่มเติมและจัดพิมพ์เผยแพร่ โดยมีหอสมุดแห่งชาติเป็นหน่วยหลัก เฉพาะที่เป็นจารึกสมัยสุโขทัย ได้รวบรวมจัดพิมพ์อีกในหนังสือจารึกสมัยสุโขทัย โดยกรมศิลปากร เนื่องในโอกาสฉลอง ๗๐๐ ปีลายสือไทย เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖
จารึกสุโขทัยจัดตามลักษณะตัวอักษรได้เป็น ๕ กลุ่ม คือ
- จารึกที่ใช้อักษรไทยสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรขอมสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรไทยขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรขอมสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรขอมขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรไทยสุโขทัย
- จารึกที่ใช้อักษรไทยสุโขทัยขึ้นต้นและต่อด้วยอักษรธรรมล้านนา จารึกสุโขทัยที่ค้นพบและอ่านแล้วมีไม่น้อยกว่า ๑๐๐ หลัก ที่สำคัญ มีดังนี้
ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง ทำจากหินทรายแป้ง เป็นหลักสี่เหลี่ยมด้านเท่าทรงกระโจม หรือทรงยอ กว้างด้านละ ๓๕ เซนติเมตร สูง ๑๑๑ เซนติเมตร จารึกอักษรไทยสุโขทัย จารึกเมื่อ พ.ศ.๑๘๓๕ เรียกศิลาจารึกหลักนี้ว่า
จารึกหลักที่ ๑ ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้นดำรงพระอิสริยยศ
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ามงกุฎเมื่อทรงผนวช ทรงพบศิลาจารึกหลักนี้พร้อมพระแท่นมนังคศิลาบาตร ณ โคกปราสาทร้าง โปรดฯให้นำเข้ากรุงเทพฯ ในขั้นแรกเก็บรักษาไว้ที่วัดราชาธิวาส ต่อมาเมื่อทรงย้ายไปประทับที่วัดบวรนิเวศวิหาร จึงโปรดฯให้ย้ายไปด้วย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงอ่านศิลาจารึกนี้เป็นพระองค์แรก และหอสมุดวชิรญาณได้จัดพิมพ์เป็นครั้งแรกเมื่อ
พ.ศ.๒๔๖๗
สาระสำคัญ มีการบอกเล่าพระราชประวัติพ่อขุนรามคำแหงด้วยพระองค์เอง ความอุดมสมบูรณ์และวิถีชีวิตของคนในสมัยนั้น ในจารึกให้ข้อมูลว่าพ่อขุนรามคำแหงทรงประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นในปีมหาศักราช
๑๒๐๕ (พ.ศ.๑๘๒๖) ต่อมาปีมหาศักราช ๑๒๑๔ (พ.ศ.๑๘๓๕)
พ่อขุนรามคำแหงทรงให้ช่างนำหินทรายแป้งมาทำพระแท่นมนังคศิลาบาตร เพื่อให้พระเถระแสดงธรรมและเป็นที่ประทับว่าราชการและตัดสินคดีความ ทรงแขวนกระดิ่งไว้สำหรับร้องทุกข์ ด้านการพระพุทธศาสนา ทรงอาราธนาพระภิกษุสงฆ์ฝ่ายลังกาวงศ์จากนครศรีธรรมราชมาร่วมกับฝ่ายเถรวาทเดิม ให้มาสั่งสอนอบรมชาวสุโขทัย ในคืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง มีงานเผาเทียนเล่นไฟ อันเป็นที่มาของงานประเพณีลอยกระทง ด้านการปกครอง สุโขทัยมีอาณาเขตกว้างขวาง ทิศตะวันออกตั้งแต่สองแคว (พิษณุโลก) ไปถึงเวียงจันทน์ ทิศใต้ตั้งแต่สุพรรณบุรี ราชบุรี
เลยนครศรีธรรมราช ไปสุดแผ่นดินจดทะเลมหาสมุทร ทิศตะวันตกเลยเมืองฉอดไปถึงหงสาวดี มีมหาสมุทรเป็นแดน ทิศเหนือถึงแพร่
น่าน ข้ามฝั่งโขงไปถึงหลวงพระบาง
ศิลาจารึกวัดศรีชุม เรียกว่า ศิลาจารึกหลักที่ ๒ ทำด้วยหินดินดาน เป็นรูปใบเสมา
กว้าง ๖๗ เซนติเมตร สูง ๒๗๕ เซนติเมตร หนา ๘
เซนติเมตร จารึกอักษรไทยสุโขทัยทั้ง ๒ ด้าน ประมาณ พ.ศ.๑๘๘๐-๑๙๑๐ นายพลโท พระยาสโมสรสรรพการ เมื่อครั้งเป็นหลวงสโมสรพลการ พบที่อุโมงค์วัดศรีชุม เมืองเก่าสุโขทัย เมื่อ
พ.ศ.๒๔๓๐ ปัจจุบันอยู่ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร
สาระสำคัญ เป็นการเล่าเรื่องก่อนที่จะเกิดอาณาจักรสุโขทัย สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลังกาทีปมหาสามี ท่านเกิดในนครสองแคว (พิษณุโลก) เป็นโอรสพระยาคำแหงมหาราช หลานปู่พ่อขุนนาวนำถุม (พระยาศรีนาวนำถุม) ซึ่งเสวยราชย์ในนครสุโขไทและสรีเสชนาไล (ศรีสัชนาลัย) ทรงตั้งขุนยี่ (อุปราช) ปกครอง โอรสองค์โตชื่อ ขุนผาเมือง ปกครองเมืองราด เมืองลุม เป็นราชบุตรเขยของพระเจ้าชัยวรมันที่แปด และทรงดำรงตำแหน่งยุวราชแห่งศรีโสธรปุระด้วย โอรสอีกองค์ชื่อ พระยาคำแหงพระราม (พระบิดา) ครองนครสองแคว เมื่อสิ้นพ่อขุนนาวนำถุมแล้ว ขอมสบาดโขลนลำพงยึดอำนาจ พ่อขุนบางกลางหาวจึงขึ้นไปเมืองบางยางเพื่อรวมพลกับพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองยึดสุโขทัยกลับคืนได้และได้พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นครอง
สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ได้เสด็จไปลังกาทวีป เมื่อกลับมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพร้อมกิ่งพระศรีมหาโพธิมาประดิษฐานที่นครสุโขทัย บางฉลัง ศรีสัชนาลัย
ศิลาจารึกนครชุม เรียกว่า จารึกหลักที่ ๓ ทำด้วยหินทรายแป้ง เป็นรูปใบเสมา กว้าง ๔๗ เซนติเมตร สูง ๑๙๓ เซนติเมตร หนา ๖ เซนติเมตร จารึกอักษรไทยสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ.๑๙๐๐ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพบที่วัดบรมธาตุนครชุม เมืองกำแพงเพชร เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ ปัจจุบันอยู่ที่หอสมุดวชิรญาณ กองหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพฯ
สาระสำคัญ เบื้องต้นบอกให้ทราบว่าพระยาลือไทย โอรสพระยาเลอไทย พระนัดดาพระยารามราช เสวยราชย์ที่เมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย ประมาณปี พ.ศ.๑๘๙๐ ทรงได้พระบรมสารีริกธาตุพร้อมกิ่งพระศรีมหาโพธิจากลังกาทวีปในปี พ.ศ.๑๙๐๐ จึงทรงนำไปประดิษฐานในเมืองนครชุม พระมหาธรรมราชาลิไททรงเชื่อว่าพระพุทธศาสนาจะมีดำรงอยู่ได้ห้าพันปี จึงทรงจารึกข้อความเกี่ยวกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาไว้
สาระสำคัญ เป็นการเล่าเรื่องก่อนที่จะเกิดอาณาจักรสุโขทัย สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาราชจุฬามุนีศรีรัตนลังกาทีปมหาสามี ท่านเกิดในนครสองแคว (พิษณุโลก) เป็นโอรสพระยาคำแหงมหาราช หลานปู่พ่อขุนนาวนำถุม (พระยาศรีนาวนำถุม) ซึ่งเสวยราชย์ในนครสุโขไทและสรีเสชนาไล (ศรีสัชนาลัย) ทรงตั้งขุนยี่ (อุปราช) ปกครอง โอรสองค์โตชื่อ ขุนผาเมือง ปกครองเมืองราด เมืองลุม เป็นราชบุตรเขยของพระเจ้าชัยวรมันที่แปด และทรงดำรงตำแหน่งยุวราชแห่งศรีโสธรปุระด้วย โอรสอีกองค์ชื่อ พระยาคำแหงพระราม (พระบิดา) ครองนครสองแคว เมื่อสิ้นพ่อขุนนาวนำถุมแล้ว ขอมสบาดโขลนลำพงยึดอำนาจ พ่อขุนบางกลางหาวจึงขึ้นไปเมืองบางยางเพื่อรวมพลกับพ่อขุนผาเมือง พ่อขุนผาเมืองยึดสุโขทัยกลับคืนได้และได้พ่อขุนบางกลางหาวขึ้นครอง
สมเด็จพระมหาเถรศรีศรัทธาฯ ได้เสด็จไปลังกาทวีป เมื่อกลับมาได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพร้อมกิ่งพระศรีมหาโพธิมาประดิษฐานที่นครสุโขทัย บางฉลัง ศรีสัชนาลัย
ศิลาจารึกนครชุม เรียกว่า จารึกหลักที่ ๓ ทำด้วยหินทรายแป้ง เป็นรูปใบเสมา กว้าง ๔๗ เซนติเมตร สูง ๑๙๓ เซนติเมตร หนา ๖ เซนติเมตร จารึกอักษรไทยสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างเมื่อปี พ.ศ.๑๙๐๐ สมเด็จฯกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพบที่วัดบรมธาตุนครชุม เมืองกำแพงเพชร เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๔ ปัจจุบันอยู่ที่หอสมุดวชิรญาณ กองหอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพฯ
สาระสำคัญ เบื้องต้นบอกให้ทราบว่าพระยาลือไทย โอรสพระยาเลอไทย พระนัดดาพระยารามราช เสวยราชย์ที่เมืองศรีสัชนาลัยสุโขทัย ประมาณปี พ.ศ.๑๘๙๐ ทรงได้พระบรมสารีริกธาตุพร้อมกิ่งพระศรีมหาโพธิจากลังกาทวีปในปี พ.ศ.๑๙๐๐ จึงทรงนำไปประดิษฐานในเมืองนครชุม พระมหาธรรมราชาลิไททรงเชื่อว่าพระพุทธศาสนาจะมีดำรงอยู่ได้ห้าพันปี จึงทรงจารึกข้อความเกี่ยวกับความเชื่อทางพระพุทธศาสนาไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น