วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

การใช้คำว่า ล่ะ ละ, นะ น่ะ และ คะ ค่ะ




"ละ" เป็นคำที่ใช้ในประโยคบอกเล่า กร่อนเสียงมาจากคำว่า "แหละ"เช่น เท่านั้นละ(แหละ),เอาอย่างนี้ละ(แหละ),ดีแล้วละ(แหละ)เป็นต้น
"ล่ะ" ใช้ในรูปประโยคคำถาม กร่อนเสียงมาจากคำว่า "เล่า"เช่น จะไปไหนล่ะ(เล่า),  กินข้าวด้วยกันไหมล่ะ(เล่า),  ทีนี้จะทำอย่างไรกันดีล่ะ(เล่า)  เป็นต้น

"นะ" ประกอบคำเป็นเชิงอ้อนวอนหรือเสริมให้หนักแน่นขึ้น เช่น รอก่อนนะ, อย่าไปนะ, รักนะ ฯลฯ
"น่ะ" คำนี้ไม่ปรากฏอยู่ในพจนานุกรม เข้าใจว่าน่าจะกร่อนมาจากคำว่า "น่า" ในความหมายอ้อนวอน  เชื้อเชิญหรือชักชวน เช่น ลองดูหน่อยเถิดน่า, อย่าทำอย่างนี้เลยน่า ...ฯลฯ


"คะ"ใช้ต่อหลังประโยค คำถาม เช่น อย่างไรคะ, เท่าไรคะ, ทำไมคะ, ยังไงคะ, เปรี้ยวหรอคะ
และต่อหลังคำว่า "สิ" กับ "นะ" เช่น อย่างนั้นสิคะ, แบบนี้นะคะ

"ค่ะ" ใช้ต่อหลังประโยค คำตอบ เช่น ได้ค่ะ, ไม่ค่ะ, แน่นอนค่ะ, สุดยอดค่ะ และต่อหลังประโยค บอกเล่า เช่น หนูเป็นนักเรียนค่ะ  ทิ้งท้ายด้วยคำผิดที่เจอบ่อยที่สุด "นะค่ะ"



วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

ฃ ขวดกับ ฅ คนหายไปตั้งแต่เมื่อไร (16 กันยายน 2556)

ฃ ขวดกับ ฅ คนหายไปตั้งแต่เมื่อไร


รศ. ดร. คุณหญิงสุริยา  รัตนกุล ผู้เขียนหนังสือ ฃ,   หายไปไหน ? ได้ศึกษาความเป็นมาของพยัญชนะทั้งสองตัวนี้ และชี้ให้เห็นว่า หากเริ่มนับตั้งแต่ที่พบ ฃ, ฅ ในศิลาจารึกสมัยสุโขทัยเป็นครั้งแรก  จนถึงการประกาศเลิกใช้  ,   ในปทานุกรม พ.ศ.  ๒๔๗๐  และพจนานุกรม  พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นเกณฑ์ พยัญชนะทั้งสองมีที่ใช้อยู่ในภาษาไทยนานถึง ๗๐๐ ปี หากแต่อัตราการใช้ และความแม่นยำที่ใช้แตกต่างกันไปตามยุคสมัย
เดิม ฃ, ฅ เป็นพยัญชนะแทนเสียงซึ่งเคยใช้กันมาแต่เดิม(ซึ่งแตกต่างจากเสียง ข และ ค) แต่เสียงนี้ได้หายไปในระยะหลังเป็นเหตุให้พยัญชนะทั้งสองตัวหมดความสำคัญลงในภาษาไทยปัจจุบัน
เมื่อครั้งที่มีการประดิษฐ์พิมพ์ดีดภาษาไทยขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๔๓๔ ผู้ประดิษฐ์ได้ตัดตัว ฃ,   ทิ้งไป ด้วยเหตุว่าพื้นที่บนแป้นพิมพ์ดีดไม่เพียงพอ และยังให้เหตุผลว่าเป็นพยัญชนะที่  “ไม่ค่อยได้ใช้และสามารถทดแทนด้วยตัวพยัญชนะอื่นได้
นี่อาจเป็นครั้งแรกที่พยัญชนะ ฃ, ฅ ถูก ตัดทิ้งอย่างเป็นทางการ ส่วนครั้งต่อ ๆ มาก็คือการประกาศงดใช้ ฃ, ฅ สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เมื่อครั้งปรับปรุงภาษาไทยให้เจริญก้าวหน้าในยุครัฐนิยม รวมถึงการประกาศเลิกใช้ในปทานุกรมและพจนานุกรมดังกล่าวแล้ว

มีข้อน่าสังเกตว่า  แต่ก่อนพยัญชนะ ฅ  ไม่ได้ใช้ในคำว่า คน เลย (ฅ ใช้ในคำ ฅอ ฅอเสื้อ เป็นอาทิ) ความสับสนในเรื่องนี้คงเกิดมาจาก ก ไก่ คำกลอน ผลงานของครูย้วน ทันนิเทศ (ในหนังสือแบบเรียนไว เล่ม ๑ ตอนต้น, พ.ศ. ๒๔๗๓) ที่แต่งว่า  “  ฅนโสภาแล้วต่อมาหนังสือ ก ไก่ ฉบับประชาช่าง ก็แต่งว่า  “ฅ ฅนขึงขังซึ่งเป็น ก ไก่ คำกลอนฉบับที่คนรุ่นปัจจุบันคุ้นเคยที่สุด แล้วก็เลยพลอยเข้าใจว่า ฅ  ใช้ในคำว่า คน

คำทับศัพท์ที่ถูกต้อง (9 กันยายน 2556)

คำทับศัพท์ที่ถูกต้อง




คำศัพท์
คำทับศัพท์ที่ถูกต้อง
คำทับศัพท์ที่มักเขียนผิด
antibody
แอนติบอดี

intercom
อินเตอร์คอม

computer
คอมพิวเตอร์

quantum
ควอนตัม

Carboon footprint
คาร์บอนฟุตพรินต์

Water footprint
วอเทอร์ฟุตพรินต์

Internet
อินเทอร์เน็ต
อินเตอร์เน็ต
Web
เว็บ 
เว็ป
Lab
แล็บ
แล็ป 
log
ล็อก

cell
เซลล์

pattern
แพตเทิร์น

double
ดับเบิล

general
เจเนอรัล

booking
บุกกิง

cobalt-60
โคบอลต์-๖๐

McGraw-Hill
แมกกรอว์-ฮิลล์

calcium carbonate
แคลเซียมคาร์บอเนต

hyperbolic curve
ส่วนโค้งไฮเพอร์โบลา

electronic charge
ประจุอิเล็กตรอน
focal length
ความยาวโฟกัส

atomic absorption
การดูดกลืนโดยอะตอม

electronic power conversion
การแปลงผันกำลังเชิงอิเล็กทรอนิกส์

electronic
อิเล็กทรอนิกส์

sulpuric acid 
กรดซัลฟิวริก

feudal system
ระบบฟิวดัล

metric system
ระบบเมตริก

hyperbolic function
ฟังก์ชันไฮเพอร์โบลิก

Euclidean geometry
เรขาคณิตระบบยุคลิด

Eulerian function
ฟังก์ชันแบบออยเลอร์

Napierian logarithm
ลอการิทึมแบบเนเปียร์

logarithm
ลอการิทึม

cosmic ray
รังสีคอสมิก

Arctic Circle
อาร์กติกเซอร์เคิล

normal matrix
เมทริกซ์แบบนอร์แมล

matrix
เมทริกซ์

thermoseting plastic
พลาสติกชนิดเทอร์โมเซตติง

plastic
พลาสติก

F.B.I
เอฟบีไอ

USIS
ยูซิส

UNESCO
ยูเนสโก

ASEAN
อาเซียน

aluminium
อะลูมิเนียม

arrow
แอร์โรว์

bar
บาร์

ward
วอร์ด

aerosphere
แอโรสเฟียร์

gear
เกียร์

Heart
ฮาร์ต

Thomas More
ทอมัส มอร์






ราชบัณฑิตยสถาน เตรียมแก้คำทับศัพท์ 176 คำ (2 กันยายน 2556)

ราชบัณฑิตยสถาน เตรียมแก้คำทับศัพท์ 176 คำ



นางกาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้กองศิลปกรรมได้จัดทำแบบสำรวจความคิดเห็นประมาณ 300 ชุด เกี่ยวกับการเขียนคำยืมจากภาษาอังกฤษในพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 เพื่อสอบถามความเห็นจากคณะกรรมการราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้องในการเปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่ยืมจากภาษาอังกฤษใหม่ เนื่องจากพบว่ามีคำศัพท์ที่ยืมมาจากคำภาษาอังกฤษ 176 คำ เขียนผิด และไม่ตรงกับเสียงวรรณยุกต์ของคำนั้นๆ ตามอักขรวิธีไทย และการอ่านออกเสียง ที่ผ่านมามีหลายคนตั้งคำถามว่าทำไมคำคำนี้ เขียนแบบนี้ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่มาเรียนภาษาไทย หรือว่าฝึกอ่านภาษาไทย ซึ่งได้เรียนวิธีการเขียนและอ่านอย่างถูกต้องมาแล้ว เมื่อมาเจอคำศัพท์บางคำที่ไม่มีวรรณยุกต์ ก็เกิดความสับสน และอ่านไม่ออก
นางกาญจนากล่าวต่อว่า ปัญหานี้เกิดขึ้นมาจากขั้นตอนการถอดคำ หรือว่ายืมคำมาจากภาษาอังกฤษ เมื่อแปลมาเป็นภาษาไทย ไม่ได้เติมวรรณยุกต์เสียงเอก โท หรือตรี รวมทั้ง ไม้ไต่คู้ ให้ตรงตามอักขรวิธีไทย อย่างคำว่า "แคลอรี" การเขียนให้ตรงกับการออกเสียงต้องเป็น "แคลอรี่" หรือว่าคำว่า "โควตา" ถ้าจะให้ตรงกับการออกเสียงต้องเป็นคำว่า "โควต้า" รวมทั้ง "เรดาร์" ต้องเป็นคำว่า "เรด้าร์" เพื่อให้ตรงตามเสียงของคำนี้ เป็นต้น
"ที่หลายคนกังวลว่าการเปลี่ยนวิธีการเขียนคำครั้งนี้ อาจทำให้สับสน หรือว่าเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเขียนศัพท์ต่างๆ นั้น ไม่น่าจะสับสน เพราะถ้าอ่านภาษาไทยก็ไม่น่าสับสน คำศัพท์หลายๆ คำในปัจจุบันมีคนเขียนตามคำศัพท์ที่จะเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ถ้าใครจะเขียนแบบเดิมๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ที่เสนอให้แก้ไข เพื่อให้เขียนถูกต้องตามเสียงของคำนั้นๆ แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าแปลก และไม่ควรแก้ไข" นางกาญจนากล่าว
นางกาญจนากล่าวต่อว่า เบื้องต้นได้สอบถามความเห็นจากสภาราชบัณฑิต ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเติมวรรณยุกต์ และเปลี่ยนแปลงคำศัพท์ทั้ง 176 คำ เพื่อเขียนให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูผลการสำรวจความคิดเห็นอีกครั้งว่าส่วนใหญ่จะเห็นด้วยทุกคำ หรือเห็นด้วยเฉพาะบางคำ ซึ่งตามกำหนดเวลาแล้ว ภายในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ทุกคนต้องส่งแบบสอบถามดังกล่าวกลับที่กองศิลปกรรม เพื่อประมวลผลความคิดเห็นว่าเห็นด้วยหรือไม่ และมีข้อเสนออะไร ทั้งนี้ การขอปรับแก้คำศัพท์ทั้ง 176 คำนั้น หากเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรเปลี่ยน ก็จะนำไปบรรจุในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย สถาน พ.ศ.2554 ซึ่งกำลังดำเนินการปรับปรุงเพื่อจัดพิมพ์เล่มใหม่
คำศัพท์ที่อยู่ในแบบสำรวจ เพื่อขอความเห็นในการเปลี่ยนแปลงการเขียนใหม่ ดังนี้
1.คำที่ใส่เครื่องหมายไม้ไต่คู้เพื่อแสดงสระเสียงสั้น ได้แก่
ซีเมนต์ เปลี่ยนเป็น ซีเม็นต์
เซต-เซ็ต
เซนติกรัม-เซ็นติกรัม
เซนติเกรด-เซ็นติเกรด
เซนติลิตร-เซ็นติลิตร
ไดเรกตริกซ์-ไดเร็กตริก
เทนนิส-เท็นนิส
นอต-น็อต
นิวตรอน-นิวตร็อน
เนตบอล-เน็ตบอล
เนปจูน-เน็ปจูน
เบนซิน-เบ็นซิน
แบคทีเรีย-แบ็คทีเรีย
มะฮอกกานี-มะฮ็อกกานี
เมตริก-เม็ตตริก
เมตริกตัน- เม็ตริกตัน
แมงกานิน-แม็งกานิน
อิเล็ก ตรอน-อิเล็กตร็อน
เฮกโตกรัม-เฮ็กโตกรัม
เฮกโตลิตร-เฮ็กโตลิตร
2.คำที่เปลี่ยนตัวพยัญชนะเป็นอักษรสูง ได้แก่
คอร์ด-ขอร์ด
แคโทด-แคโถด
ซัลเฟต-ซัลเฝต
ไทเทรต-ไทเถรต
ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ
พาร์เซก-พาร์เส็ก
แฟลต-แฝล็ต
สเปกโทร สโกป-สเป็กโทรสโขป
ไอโซโทป-ไอโซโถป
3.คำที่ใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์เอก ได้แก่
กอริลลา-กอริลล่า
แกโดลิเนียม-แกโดลิ เนี่ยม
แกมมา-แกมม่า
แกลเลียม-แกลเลี่ยม
คูเรียม-คูเรี่ยม
แคดเมียม-แคดเมี่ยม
แคลเซียม-แคลเซี่ยม
แคลอรี-แคลอรี่
โครเมียม-โครเมี่ยม
ซิงโคนา-ซิงโคน่า
ซิลิคอน-ซิลิค่อน
ซีเซียม-ซีเซี่ยม
ซีนอน-ซีน่อน
ซีเรียม-ซีเรี่ยม
โซลา-โซล่า
ดอลลาร์-ดอลล่าร์
เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่
แทนทาลัม-แทนทาลั่ม
ไทเทเนียม-ไทเท เนี่ยม
เนบิวลา-เนบิวล่า
ไนลอน-ไนล่อน
แบเรียม-แบเรี่ยม
ปริซึม-ปริซึ่ม
ปิโตรเลียม-ปิโตรเลี่ยม
แพลทินัม-แพลทินั่ม
ฟังก์ชัน-ฟังก์ชั่น
ฟาทอม-ฟาท่อม
ไมครอน-ไมคร่อน
ยิปซัม-ยิปซั่ม
ยูเรเนียม-ยูเรเนี่ยม
เลเซอร์-เลเซ่อร์
วอลเลย์บอล-วอลเล่ย์บอล
อะลูมิเนียม-อะลูมิเนี่ยม
อีเทอร์-อีเท่อร์
เอเคอร์-เอเค่อร์
แอลฟา-แอลฟ่า
ฮาห์เนียม-ฮาห์เนี่ยม
ฮีเลียม-ฮีเลี่ยม
4.คำที่ใส่ ห นำเพื่อแสดงเสียงวรรณยุกต์เอก ได้แก่
กะรัต-กะหรัต
แกรนิต-แกรหนิต
คลินิก-คลิหนิก
คาทอลิก-คาทอหลิก
คาร์บอเนต-คาร์บอเหนต
คาร์บอลิก-คาร์บอหลิก
โคออร์ดิเนต-โคออร์ดิเหนต
รูเล็ตต์- รูเหล็ตต์
5.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์โท ได้แก่
กลูโคส-กลูโค้ส
กิโลไซเกิล-กิโลไซเกิ้ล
กิโลเมตร-กิโลเม้ตร
กิโลเฮิรตซ์-กิโลเฮิ้รตซ์
กีตาร์-กีต้าร์
แกรไฟต์-แกรไฟ้ต์
คาร์บอน-คาร์บ้อน
คาร์บูเรเตอร์-คาร์บูเรเต้อร์
เคเบิล-เคเบิ้ล
โควตา-โควต้า
ชอล์ก-ช้อล์ก
ซอส-ซ้อส
โซเดียม-โซเดี้ยม
ไดนาไมต์-ไดนาไม้ต์
แทนเจนต์-แทนเจ้นต์
แทรกเตอร์-แทรกเต้อร์
นิกเกิล-นิกเกิ้ล
ไนต์คลับ-ไน้ต์ขลับ
ไนโตรเจน-ไนโตรเจ้น
บารอมิเตอร์-บารอมิเต้อร์
บีตา-บีต้า
ปาทังกา-ปาทังก้า
ปาร์เกต์-ปาร์เก้ต์
พลาสติก-พล้าสติก
ฟาสซิสต์- ฟ้าสซิสต์
มอเตอร์-มอเต้อร์
เมตร-เม้ตร
ไมกา-ไมก้า
ยีราฟ-ยีร้าฟ
เรดอน-เรด้อน
เรดาร์-เรด้าร์
เรเดียม-เรเดี้ยม
ลิกไนต์- ลิกไน้ต์
แวนดา-แวนด้า
อาร์กอน-อาร์ก้อน
แอนติบอดี-แอนติบอดี้
เฮิรตซ์-เฮิ้รตซ์
ไฮดรา-ไฮดร้า
ไฮโดรเจน-ไฮโดรเจ้น
6.คำที่เติมเครื่องหมายวรรณยุกต์ตรี ได้แก่
กราฟ-กร๊าฟ
ก๊อซ-ก๊อซ
กอล์ฟ-ก๊อล์ฟ
เกาต์-เก๊าต์
ออกไซด์-อ๊อกไซด์
โคบอลต์- โคบ๊อลต์
ดราฟต์-ดร๊าฟต์
ดัตช์-ดั๊ตช์
ดิสโพรเซียม-ดิ๊สโพรเซี่ยม
เดกซ์โทรส-เด๊ก โทรัส
เต็นท์-เต๊นท์
บาสเกตบอล-บ๊าสเก้ต บอล
บิสมัท-บิ๊สมั้ท
แบงก์-แบ๊งก์
โบต-โบ๊ต
ปลาสเตอร์-ปล๊าสเต้อร์
ปิกนิก-ปิ๊กหนิก
ออกซิเจน-อ๊อกซิเย่น
ออกซิเดชัน-อ๊อก ซิเดชั่น
ออกไซด์-อ๊อกไซด์
อาร์ต-อ๊าร์ต
เอกซเรย์-เอ๊กซเรย์
แอสไพริน-แอ๊สไพริน
แอสฟัลต์-แอ๊สฟัลต์
โอ๊ด-โอ๊ต

7.คำที่มีหลายพยางค์ ได้แก่
คอนเดนเซอร์-ค็อนเด็นเซ่อร์
คอนแวนต์-ค็อนแว็นต์
คอนเสิร์ต-ค็อนเสิร์ต
คอมพิวเตอร์-ค็อมพิ้วเต้อร์
คอมมานโด-ค็อมมานโด
คอมมิวนิสต์-ค็อมมิวนิสต์
คูปอง- คูป็อง
เครดิตฟองซิเอร์-เครดิตฟ็องซิเอร์
แคดเมียม-แค็ดเมี่ยม
แคปซูล-แค็ปซูล
แคลเซียมไซคลาเมต-แคลเซี่ยมไซคลาเมต
ช็อกโกเลต/ ช็อกโกแลต-ช็อกโกแล็ต
เซนติเมตร-เซ็นติเม้ตร
โซเดียมคาร์บอเนต-โซเดี้ยมคาร์บอเหนต
โซเดียมไซคลาเมต-โซเดี้ยมไซคลาเหมต
โซเดียมไฮโดรเจนกลูทาเมต-โซเดี้ยมไฮโดรเจ้นกลูตาเหมต
โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต-โซเดี้ยมไฮโดร เจ้นคาร์บอเหนต
ดีเปรสชัน-ดีเปร๊สชั่น
เทคโนโลยี-เท็คโนโลยี่
แทรกเตอร์-แทร็ก เต้อร์
แบดมินตัน-แบ็ดมินตั้น
แบตเตอรี่-แบ็ตเตอรี่
พลาสมา-พล้าสม่า
โพแทสเซียม-โพแท้สเซี่ยม
เมนทอล-เม็นท่อล
แมงกานีส-แม็งกานี้ส
แมกนีเซียม-แม็กนีเซี่ยม
รีดักชัน-รีดั๊กชั่น
ลอการิทึม-ล็อกการิทึ่ม
สเปกตรัม-สเป๊กตรั้ม
สเปกโทรสโกป-สเป็กโตรสโขป
ออกซิเดชัน-อ๊อกซิเดชั่น
อัลตราไวโอเลต-อัลตร้าไวโอเหล็ต
แอกทิเนียม-แอ๊กทิเนี่ยม
แอนติอิเล็ก ตรอน-แอ็นติอิเล็กตร็อน
เฮกตาร์-เฮ็กต้าร์
เฮกโตเมตร- เฮ็กโตเม้ตร